เฟสเขียว

เฟสเขียว

เฟสเขียว แน่นอนว่าเรื่องลิขสิทธิ์เกิดเหตุใหญ่ยอดเยี่ยมที่ทุกคนไม่ควรไม่เอาใจใส่ ด้วยเหตุผลดังกล่าวถ้าหากเพจของคุณใช้รูปภาพ วิดีโอ หรือเพลงที่มีลิขสิทธิ์โดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ เพจของคุณก็เสี่ยงล่องลอยได้เหมือนกัน!

เว้นแต่ว่าเนื้อหาที่โพสต์แล้ว การกระทำต่างๆของผู้ดูแลเพจ ก็มีผลกับการตรวจเช็คสมรรถนะเพจได้เหมือนกัน โดยหากเพจของคุณได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเป็น Spam ก็อาจมีต้นเหตุมาจากความประพฤติดังต่อไปนี้

มีการโพสต์ที่ถี่อย่างมาก ทั้งยังบนหน้าเพจรวมถึงการบรอดแคสต์ประเด็นหลัก

ถ้าเกิดเพจของคุณมีการโพสต์เนื้อหาเดิมเสมอๆต่อกัน โดยเฉพาะการแชร์เนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆรวมทั้งมีการส่งข้อความบรอดแคสต์ให้กับลูกค้าของเพจเสมอๆเพจของคุณก็มีการเสี่ยงที่จะฝืน Community Standard ของ Facebook ได้ ไม่ว่าจะมาจากการที่ลูกค้าของคุณอารมณ์เสียสาระสำคัญบรอดแคสต์จนกว่ากด report หรือการเช็ดกตรวจหาจากทาง Facebook ก็ตาม

มีการแชร์เนื้อหาคลิกเบต

“คลิกเบต” เป็นการแชร์เนื้อหาที่เป็นการล่อให้คลิก ที่การนำดหัวข่าวที่เกินจริง หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของข้อมูลเพิ่มเติมโดย Facebook ถือว่าการแชร์คลิกเบตเทียบเท่าการแชร์ False News บนโลกออนไลน์ซึ่งถือว่าเป็นการฝืน Community Standards ด้วยด้วยเหมือนกัน

เฟสเขียว SEO เป็นอย่างไร รวมทั้งกระบวนการทำ SEO เป็นอย่างไร

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimisation ซึ่งก็คือการใช้ยุทธวิธีต่างๆเพื่อเพิ่มชั้นของเว็บในเสริชเอนจิ้น (Google) หรือที่พวกเราถูกใจเรียกกันว่าทำให้เว็บขึ้นหน้าแรกของ Google รวมทั้งเพื่อจะเพิ่ม Organic Traffic ของเว็บอีกทั้งในส่วนของประสิทธิภาพของ traffic และก็จำนวนของ traffic เว็บของพวกเราจะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

แนวทางการทำ SEO นั้นก็สามารถทำผ่านเคล็ดลับแล้วก็ขั้นตอนการต่างๆมากมายต้นแบบ เฟสเขียว ในรูปภาพรวมสามารถแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญๆได้เป็น

On-page SEO – เป็นการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดและก็การเปลี่ยนแปลงในแบบอื่นๆที่เกิดขึ้นจำกัดด้านในตัวเว็บ ทั้งหมดทั้งปวงเพื่อจุดหมายเป็นให้ Google สามารถเข้าถึงเว็บได้ง่ายมากยิ่งขึ้น รู้เรื่องรายละเอียดบนเว็บของพวกเราได้ดิบได้ดีขึ้น เป็นเว็บเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน อาทิเช่นมีการโหลดที่เร็ว ฯลฯ

Off-page SEO – เป็นกระบวนการทำให้เว็บของพวกเราถูกอ้างอิงถึง รวมทั้งมีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้นในโลกอินเตอร์เน็ต ส่วนมากบางทีอาจเน้นย้ำการผลิตลิงก์ (Link Building) ที่มีคุณภาพกลับมาเว็บของพวกเรา โดยเว็บต้นทางที่พวกเราไปสร้างลิงก์กลับมาหาเว็บของพวกเราควรจะเป็นเว็บที่มีคุณภาพเช่นเดียวกัน การผลิตลิงก์ก็เลยจะเห็นผลที่ดี

การวางวิธีการ SEO (SEO Strategy)

ก่อนจะเริ่มใช้แนวทางต่างๆสำหรับเพื่อการทำ SEO นั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดลำดับแรกที่พวกเราจำเป็นต้องทำก็คือ การกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ (business goal) ของเว็บที่พวกเราจะก่อให้

อย่างเช่น ถ้าเกิดคุณมีธุรกิจบังกะโลเล็กๆชายทะเล บนเกาะสมุย วัตถุประสงค์ทางธุรกิจของคุณก็บางทีอาจจะเป็น การหาลูกค้ามาพักที่โฮเต็ลของคุณผ่านการจองทางเว็บ ถ้าหากคุณมีเว็บไซต์ ecommerce จุดมุ่งหมายของคุณก็บางครั้งก็อาจจะเป็นการขายของบนเว็บให้ได้จำนวนที่มากขึ้น

เมื่อทราบวัตถุประสงค์ของธุรกิจแล้ว ก็มาดูที่วัตถุประสงค์ทางการตลาดของธุรกิจต่อว่าต่อขานเวลานี้จุดหมายทางการตลาดของธุรกิจพวกเรามีอะไรบ้าง บางครั้งก็อาจจะเป็นการสร้าง brand awareness การพยายามดึงคนให้เข้ามาพบเว็บของคุณเป็นจำนวนมากหรือพากเพียรเย้ายวนใจกลุ่มชนใช้อินเตอร์เน็ตที่พร้อมที่จะซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการแล้ว

เมื่อพวกเราทราบเป้าหมายหลักรวมทั้งจุดมุ่งหมายทางการตลาดของธุรกิจแล้ว พวกเราก็เลยจะสามารถเริ่มคิดแผนและก็กำหนดจุดมุ่งหมายย่อยอื่นๆที่มีความเจาะจงมากเพิ่มขึ้นสำหรับในการวางแผนทำ SEO ของพวกเราได้อย่างเหมาะควร อย่างเช่น

ทำให้เว็บของพวกเราติดอันดับให้กับกรุ๊ป keywords ยาวๆที่อาจมีคนเสริชไม่มาก

แม้กระนั้นผู้ที่เสริชคำพวกนี้พร้อมที่จะซื้อผลิตภัณฑ์รวมทั้งบริการอยู่แล้ว เมื่อเอ่ยถึงการเลือก keywords สำหรับเพื่อการทำ SEO ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยยังคงยึดติดกับความเชื่อถือว่าจำเป็นต้องเลือก keywords สำคัญๆที่มีคนเสริชจำนวนมากแม้ว่าการเลือกแบบนั้นบางครั้งอาจจะไม่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเลยก็เป็นได้ถ้าเว็บของคุณเป็นเว็บใหม่ที่ไม่เคยผ่านกระบวนการทำ SEO มาก่อน แล้วก็คู่ต่อสู้สำหรับ keywords สำคัญๆสั้นๆพวกนั้นเป็นคู่แข่งขันที่มีเว็บที่มี Domain Authority สูง เฟสเขียว ช่องทางที่เว็บไซต์คุณจะขึ้นไปติดอันดับนำเว็บไซต์พวกนี้ก็จะยากขึ้น ด้วยเหตุดังกล่าว บางโอกาสการเลือก keywords ยาวๆที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ แล้วก็คุณได้โอกาสขึ้นหน้าแรกได้ภายในระยะเวลาไม่นานนักก็เลยเป็นหนทางที่ดีมากกว่า

ทำให้คนเข้ามาที่เว็บมากยิ่งขึ้นผ่านกรุ๊ป keywords ที่บางทีอาจไม่ใช่ keywords ที่เป็นการขายของหรือบริการของพวกเราโดยตรง (คือการใช้คุณประโยชน์จากกลุ่มคำที่มีคนเสริชหาข้อมูลกลุ่มนี้มาก เพื่อมีจำนวนคนเข้าเว็บพวกเราเยอะขึ้น)

สร้างรายละเอียดบนเว็บให้มีคุณภาพสูง เพื่อที่พวกเราจะได้ติดอันดับที่สูงขึ้นใน Google ผ่านรายละเอียดนั้นๆและก็เพื่อสร้างความน่าไว้ใจให้กับเว็บของพวกเรา ผลประโยชน์ก็คือเว็บอื่นๆบางทีก็อาจจะมองเห็นว่ารายละเอียดของพวกเรานั้นเป็นประโยชน์ รวมทั้งอ้างอิงกลับมาหาเว็บของพวกเรา

เมื่อพวกเราได้สร้างจุดหมายทาง SEO แล้ว อีกสิ่งนึงที่สำคัญสำหรับการทำ SEO เป็นพวกเราจำต้องทราบดีว่า SEO สามารถที่จะนำมาใช้เพื่อทำอะไรได้บ้าง และก็มีอะไรที่ SEO ไม่สามารถที่จะทำเป็นบ้าง

แบบอย่างของสิ่งที่ SEO ไม่อาจจะทำเป็นก็ดังเช่นว่า

ได้ผลในทันทีทันใจ แนวทางการทำ SEO นั้นเป็นการการลงทุนระยะยาว อย่างน้อยที่สุดก็ 3-6 เดือนถึงจะได้ผลพอที่จะประเมินรวมทั้งปรับแผน SEO ใหม่ได้ บางกรุ๊ปธุรกิจที่มีคู่ต่อสู้เยอะแยะบางครั้งอาจจะจำเป็นต้องใช้เวลาช้านานถึง 24 เดือนเลยด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าวแม้คุณเป็นธุรกิจที่อยากได้ลูกค้าโดยทันทีการลงทุนใน SEO สิ่งเดียวบางครั้งอาจจะไม่เหมาะสมกับคุณ คุณอาจจำเป็นจะต้องทำ Google Ads หรือ Social Media ads พร้อมกันไปด้วย ขณะที่ทำ SEO เพื่อที่ธุรกิจของคุณสามารถเริ่มสร้างรายได้ได้โดยทันที

เพิ่มสิ่งที่ต้องการของคำเสริชต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณให้มีคนเสริชคำพวกนั้นเยอะขึ้นเรื่อยๆ แนวทางการทำ SEO เป็นการทำงานให้สอดคล้องกับ trends จริงที่เกิดขึ้น พวกเราดำเนินการกับข้อมูลการเสริชที่เกิดขึ้นจริงจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต

นำมาซึ่งการค้าขายโดยตรง วิธีการทำ SEO จะได้ผลในตอนแรกก็คือมองเห็นชั้นที่สูงขึ้น ซึ่งมีผลต่อเนื่องให้ Organic Traffic สูงมากขึ้น มีคนเข้าเว็บเยอะขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นมิได้สำเร็จโดยตรงให้มีการค้าขายแบบในทันทีทันใจ

แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ SEO สามารถนำไปสู่ขึ้นได้บ้าง?

SEO สามารถเย้ายวนใจผู้ที่กำลังเสริชหาข้อมูล ผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่คุณมีอยู่บนเว็บของให้มาพบเว็บของคุณได้

ควบคุมการแสดงผลของเว็บของคุณบน Search Engine อย่าง Google ได้ ทดลองดูแบบอย่างข้างล่างนี้ เฟสเขียว ทุกคนคงจะเคยชินดี เนื่องจากว่าเวลาเสริชหาข้อมูลอะไรบ้างในกูเกิลก็จะพบช่องรูปพรรณสัณฐานโดยประมาณนี้ที่มีไปด้วยแถวที่เป็น Title แถวที่เป็น URL แล้วก็แถวที่เรียก Meta พวกนี้เป็นสิ่งที่ SEO สามารถช่วยควบคุมการแสดงผลประโยชน์

ถ้าหากคุณเป็นเว็บที่ไม่เคยทำ SEO มาเลย จะกำเนิดอะไรขึ้นเมื่อเริ่มทำ SEO

โดยธรรมดาถ้าเกิดเป็นเว็บใหม่ที่ไม่เคยทำ SEO มาเลย ข้างใน 3-6 เดือนแรก บางทีอาจสามารถที่จะติดอันดับใน Google ให้ keywords ที่เรียกว่ากรุ๊ป long-tailed keywords ได้ หลังจากนั้นช่วงเวลา 6-9 เดือน บางทีอาจสามารถที่จะติดอันดับให้ keywords สำคัญๆบางคำ ภายหลังจาก 12 ข้างขึ้นไปจะเริ่มสามารถติดอันดับให้กับ keywords ที่มีคู่ปรับสูงได้มากขึ้น

เมื่อรู้เรื่องธรรมชาติของ SEO ในพื้นฐานแล้ว สิ่งที่พวกเราจำต้องทำในขั้นถัดไปเป็น การเลือกเฟ้นคีย์เวิร์ด (Keyword Research) ที่เกี่ยวกับธุรกิจของพวกเรา

Keyword Research เป็นยังไง

การคัดสรรคีย์เวิร์ด (Keyword Research) คือการใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆเพื่อเข้าถึงข้อมูลการเสริชจริงของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบน Google แน่ๆว่าข้อมูล Keywords พวกนั้นมีล้นหลามมากมายก่ายกอง ถึงแม้ว่าจะพวกเราอุตสาหะจำกัดขอบเขตให้แคบลง พวกเราก็ยังจะต้องมาเลือกเฟ้นให้ดีว่าจะใช้ Keywords แบบไหนรวมทั้งอย่างไรบ้าง ที่จะตรงกับจุดมุ่งหมายกระบวนการทำ SEO ของธุรกิจพวกเรา

เพราะเหตุไรพวกเราถึงจำเป็นต้องทำ Keyword Research?

พวกเราจะนำผลของการคัดคีย์เวิร์ดที่ได้จากแนวทางการทำ Keyword Research ไปประกอบกิจการสร้างหรือปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดคอนเทนต์บนเว็บของพวกเรา วัตถุประสงค์ก็คือจะก่อให้ง่ายที่คนที่เสริชหาข้อมูลด้วย Keywords กรุ๊ปนั้นๆมาพบกับคอนเทนต์จากผลของการค้นหา แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันพวกเราเองก็จำเป็นต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีความกลมกลืนกับสิ่งที่คนที่เสริชหาข้อมูลที่พวกเขากำลังมองหาด้วย

จะมีความเห็นว่าวิธีการทำ Keyword Research นั้นเปรียบได้ดั่งการช่วยพากลุ่มเป้าหมายที่บางทีอาจพอใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของพวกเราให้เข้ามามองคอนเทนต์ แม้กระนั้นประสิทธิภาพของคอนเทนต์พวกเราจะเป็นตัวชี้วัดอีกครั้งว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการจะเรียนรู้เว็บและก็บริการของพวกเราต่อ หรือกด X ออกไป

แล้วการค้นหา Keywords ที่สมควรนั้น จะต้องเริ่มยังไง?

การพยายามสร้างเพจหรือคอนเทนต์บนเว็บของพวกเราให้ติดอันดับให้ด้วยกรุ๊ป keywords กรุ๊ปใดกรุ๊ปหนึ่งนั้น ดูหนังออนไลน์ฟรี พวกเราต้องเริ่มตั้งแต่การถามกับตนเองก่อนว่า รายละเอียดที่พวกเราจะพรีเซ็นท์นั้นจะสามารถตอบปัญหาหรือตอบสนองในสิ่งที่ต้องการของคนที่เสริชหาด้วย keyword คำนั้นได้มากน้อยมากแค่ไหน กล่าวอีกนัยหนึ่ง สิ่งที่จำเป็นที่พวกเราจำต้องพิจารณาถึงสิ่งแรกเลยก็คือ มุมมองของผู้ใช้อินเตอร์เน็ต